Lucky Charms Rainbow Welcome to blogger of Siriporn kaminkaeo

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2561

Record 13
Tuesday 3 April 2018
เนื้อหาการเรียนการสอน (Knowledge)
             สอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์วันพุธ หน่วยตัวฉัน หน่วยผลไม้ วันพฤหัสบดี หน่วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 หน่วยใต้ร่มเงาไม้ หน่วยตัวฉัน และหน่วยอาหารดีมีคุณค่า
กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย ผลไม้
วันพุธ (ประโยชน์ของผลไม้)
วัตถุประสงค์
     1. บอกประโยชน์ของผลไม้ได้
     2. สนทนากับครูและเพื่อนๆได้
     3. แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
     4. ฝึกทักษะกระบวนการคิด   
สาระที่ควรเรียนรู้
ประโยชน์ของผลไม้
     1. เป็นอาหารให้กับคนและสัตว์
     2. มีวิตามิน ช่วยบำรุงส่วนต่างๆ ของร่างกาย และมีใยอาหาร ช่วยในระบบขับถ่าย
     3.เราจะถนอมอาหารไว้กินนานด้วยวิธี การอบแห้ง ตาก
     4. สร้างอาชีพและสร้างรายได้ เช่น ขายผลไม้ ชาวสวน และนำไปแปรรูปเพื่อส่งออก 
ประสบการณ์สำคัญ
     1. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
     2. การแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด
     3. การมีโอกาสได้รับความรู้สึก ความสนใจ ความต้องการของตนเองและผู้อื่น
     4. การพูดกับผู้อื่นเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเอง    
กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
     1. ครูเล่านิทานให้เด็กฟัง เรื่อง ผลไม้ดีมีประโยชน์   
ขั้นสอน
     2. ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับนิทานโดยใช้คำถาม ดังนี้
         - ในนิทานมีผลไม้อะไรบ้าง
         - เด็กๆรู้จักผลไม้ชนิดไหนอีกบ้าง
         - ในนิทานผลไม้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
         - นอกใจนิทานเด็กๆคิดว่าผลไม้มีประโยชน์อะไรบ้าง
         - ในนิทานมีการถนอมผลไม้อย่างไรบ้าง
         - นอกจากในนิทานเด็กๆมีวิธีถนอมผลไม้ด้วยวิธีใดบ้าง
     3. ครูถามความรู้เดิมเด็กเกี่ยวกับประโยชน์และวิธีถนอมผลไม้
     4. ครูเขียนลง Mind Mapping ประโยชน์ผลไม้และวิธีถนอมอาหาร  


ขั้นสรุป
     5. ครูและเด็กร่วมกันสรุปประโยชน์และวิธีถนอมผลไม้ ครูให้ตัวแทนเด็กออกมาจับคู่ประโยชน์ผลไม้

สื่อ / แหล่งการเรียนรู้
     1. นิทาน เรื่อง ผลไม้ดีมีประโยชน์
     2. Mind Mapping ประโยชน์ผลไม้
     3. Mind Mapping วิธีถนอมอาหาร  
การประเมิน
สังเกตจาก
     1 .การบอกประโยชน์ของผลไม้
     2. การสนทนากับครูและเพื่อนๆ 
     3. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
     4. การทักษะกระบวนการคิดในการตอบคำถาม
การบูรณาการ
     - คณิตศาสตร์
     - สุขศึกษา
     - ภาษา
ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  • สาระประโยชน์ กับการถนอม สามารถเอาไว้สอนเรื่องละวันได้
  • มีการสำรวจข้อมูล เช่นถ้าเรามีส้ม แตงโม กล้วย เด็กๆอยากเลือกทำผลไม้อะไร
  • มีภาพใหญ่ให้เห็นเป็นขั้นสอน
  • ตารางจับคู่ นำภาพติดเอาไว้ที่ฟิวเจอร์บอร์ดเพื่อให้เด็กสังเกตเห็น
  • ครูมีคำถามให้เด็กหาคำตอบ เช่นเอาคำถามมาแปะ แล้วให้เด็กอีกคนมาหาคำตอบ เช่น กล้วยเอาไปทำอะไรได้บ้าง?
  • ออกแบบสื่อให้สามารถใช้ได้นานๆ หลากหลาย
กิจกรรมเสริมประสบการณ์
หน่วย ตัวฉัน (วันพุธ)
กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
     1. ครูและเด็กร่วมกันร้องเพลง  ฉันรักร่างกายของฉัน
อาบน้ำแล้วสบายตัว
สบายหัว หนูหมั่นสระผม
ตัดเล็บที่มันแหลมคม
ปากหอมน่าชมเพราะหนูแปรงฟัน
     2. ครูและเด็กสนทนาเกี่ยวกับเพลง การทำความสะอาดร่างกายมีอะไรบ้าง
ขั้นสอน
     3. ครูใช้คำถามและบันทึก เด็กๆคิดว่าเราจะดูแลรักษาร่างกายของเราได้ด้วยวิธีใดบ้างเป็นต้น
     4. ครูสอนขั้นตอนการล้างมือ 9 วิธี และให้เด็กๆทำตาม
ขั้นสรุป
     5. ครูและเด็กร่วมกันทบทวนความรู้เรื่องการดูแลร่างกายของเรา
ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  • ขณะที่ครูพูด ครูสาธิตด้วย แล้วให้เด็กปฏิบัติิตาม
  • ไม่ควรใช้กระดาษสีสะท้อนแสง
กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย สัมผัสทั้ง
วันพฤหัสบดี (หน้าที่ของอวัยวะ หู)
วัตถุประสงค์
     1. เด็กสนทนาเรื่องการได้ยินร่วมกันได้
     2. เด็กเปรียบเทียบเสียงที่ได้ยินได้
     3. เด็กบอกแหล่งกำเนิดเสียงได้   
สาระที่ควรเรียนรู้
แหล่งกำเนิดเสียง
     -  ธรรมชาติ
     -  มนุษย์สร้างขึ้น 
ประสบการณ์สำคัญ
ด้านร่างกาย
     1. การรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นในกิจวัตรประจำวัน
ด้านอารมณ์-จิตใจ
     2. การแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบเสียงดนตรี
ด้านสังคม
     3. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
ด้านสติปัญญา
     4. การรู้จักสิ่งต่างๆด้วยการมอง ฟัง สัมผัส  ชิมรสและดมกลิ่น
กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
     1. ครูและเด็กๆร่วมกันร้องเพลง ตาดูหูฟัง
เรามีตาไว้ดู เรามีหูไว้ฟัง
คุณครูท่านสอนท่านสั่ง
ต้องตั้งใจฟัง ต้องตั้งใจดู
     2. ครูและเด็กๆร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการได้ยิน   
ขั้นสอน
     3. ครูให้เด็กๆฟังเสียงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ดังนี้ ฝนตก ฟ้าผ่า นกร้อง แล้วให้เด็กๆบอกว่าได้ยินเสียงอะไร จากนั้นบันทึกผล
     4. ครูให้เด็กๆฟังเสียงที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ ดังนี้ ร้องเพลง ดนตรี เสียงพูด แล้วให้เด็กๆบอกว่าได้ยินเสียงอะไร จากนั้นบันทึกผล 

     5. ครูให้เด็กๆแยกเสียงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและเกิดขึ้นจากมนุษย์
ขั้นสรุป
     6. ครูสนทนาร่วมกันกับเด็กเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดเสียงว่ามีอะไรบ้าง เสียงที่เรียนไปมีเสียงอะไรบ้างและนอกเหนือจากที่เรียนไปมีเสียงอะไรอีกบ้าง    
สื่อ / แหล่งการเรียนรู้
     - ชาร์จเพลง
     - เสียงต่างๆ
     - ตารางบันทึกผล
     - ตารางแยกแหล่งกำเนิดเสียง   
การประเมิน
สังเกตจาก
     1. เด็กสามารถสนทนาเรื่องการได้ยินร่วมกันได้
     2. เด็กสามารถเปรียบเทียบเสียงที่ได้ยินได้
     3. เด็กสามารถบอกแหล่งกำเนิดเสียงได้
การบูรณาการ
     - วิทยาศาสตร์
ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  • ควรเขียนแผน วัตถุประสงค์ให้สัมพันธ์กัน
  • สาระการเรียนรู้เขียนอธิบายสิ่งที่เราสอน "หู เป็นอวัยวะที่เราใช้ในการฟังเสียงต่างๆ ได้แก่ เสียงจากธรรมชาติ เสียงนก เสียงฝนตก และเสียงที่เกิดจากมนุษย์ เสียงเปียโน"
  • เพลงที่ใช้ควรเป็นเพลงที่เหมาะสม เพลงหู หูหูหู หูเรามีไว้ฟัง หูเราฟังเสียงดนตรี อาวาไชย่าบาเล่ ฟังเสียงคุณครูก็ได้

  • เลือกใช้สื่อให้เหมาะสม (เสียงที่ชัดเจน)
  • สอนโดยใช้เกณฑ์ 1 เกณฑ์ เสียงจากธรรมชาติ ให้เด็กหยิบมาติดในตาราง ที่เหลือไม่ใช่เสียงจากธรรมชาติ เด็กๆหยิบมาติดอสังเกตทั้ง 2 เสียงมีจำนวนเท่ากัน
  • สรุป ครูถามคำถาม หูมีหน้าที่อะไร
  • ครูให้เด็กเรียนรู้เรื่องเสียง มีภาพในขั้นสอน ก่อนจะประเมินในตาราง
 

กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย ใต้ร่มเงาไม้
วันพฤหัสบดี (ประโยชน์ของต้นไม้)
วัตถุประสงค์
     1. เพื่อให้เด็กบอกประโยชน์ของต้นไม้ได้อย่างน้อย 5 อย่าง
     2. เพื่อให้เด็กร่วมสนทนากับครูได้
     3. เด็กตอบคำถามได้
สาระที่ควรเรียนรู้
     ต้นไม้มีประโยชน์หลายด้านทั้งต่อตนเอง ต่อโลก และในเชิงพาณิชย์ ได้แก่ ไม้แปรรูป เป็นต้น 
ประสบการณ์สำคัญ
ด้านร่างกาย
     - การประสานสัมพันธ์ระหว่างตากับมือ
ด้านอารมณ์และจิตใจ
     - การร่วมกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน
ด้านสังคม
     - การเล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่น
ด้านสติปัญญา
     - การแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด      
กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
     1. ครูแจกจิ๊กซอว์รูปโต๊ะเก้าอี้ให้เด็กออกมาต่อให้สมบูรณ์ที่กระดานหน้าห้อง
     2. ครูสนทนาเกี่ยวกับจิ๊กซอว์รูปโต๊ะ เด็กๆทราบไหมว่าโต๊ะเก้าอี้ทำมาจากอะไร”                         
ขั้นสอน
     3. ครูบอกประโยชน์ของต้นไม้ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ประโยชน์ต่อตนเอง  ประโยชน์ต่อโลกประโยชน์ เชิงพาณิชย์  
                                 
     4. ครูให้เด็กออกมาเลือกรูปภาพที่ครูเตรียมไว้แล้วให้เด็กๆช่วยกันดูว่ารูปภาพที่เด็กๆเลือกมาเป็นประโยชน์ในด้านไหนแล้วนำมาติดลงในตาราง    
                                                          
ขั้นสรุป
     5. ครูและเด็กร่วมกันสรุปประโยชน์ของต้นไม้  ครูถามเด็กๆว่าสรุปแล้วต้นไม้สามารถนำมาทำอะไรได้บ้าง”                             
สื่อ / แหล่งการเรียนรู้
     - จิ๊กซอว์รูปโต๊ะเก้าอี้
     - แผ่นบันทึกประโยชน์ของต้นไม้  
การประเมิน
สังเกตจาก
     1. เด็กบอกประโยชน์ของต้นไม้ได้อย่างน้อย 5 อย่าง
     2. การตอบคำถามการแลกเปลี่ยนความคิดของเด็ก
     3. การสนทนาถามเด็ก
การบูรณาการ
     - ภาษา
     - วิทยาศาสตร์
     - คณิตศาสตร์
ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  • มีภาพสำหรับสอน แล้วนำมาติดในแผนผัง ใช้คำถาม "เด็กๆคิดว่าต้นไม้ทำประโยชน์ให้กับใคร ทำอะไรได้บ้าง"
  • ขั้นนำอาจให้เด็กๆมองดูรอบๆห้อง สังเกตมีสิ่งไหนที่ทำจากไม้บ้าง
  • นำภาพที่ใช้ติดในตาราง ติดไว้บนฟิวเจอร์บอร์ดเพื่อให่้เด็กสังเกตและสามารถหยิบได้ง่าย
  • ขั้นสรุป ย้อนกลับมาที่ Mind mapping
  • ไม่ควรข้ามขั้นการถามประสบการณ์เดิมของเด็ก คือ เก้าอี้ทำจากไม้ แล้วไม้สามารถทำอะไรได้อีก
กิจกรรมเสริมประสบการณหน่วย ตัวฉัน
วันพฤหัสบดี (การปฏิบัติตนให้มีพลานามัยที่ดี)
กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
     1. ครูแจกชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ให้เด็ก นำมาต่อเติมให้เป็นภาพที่สมบูรณ์
     2. ครูและเด็กสนทนาเกี่ยวกับภาพ
ขั้นสอน
     3. ครูให้เด็กออกมาสังเกตภาพแล้วติดใน Mind mapping เรื่องการปฏิิบัติตนให้มีพลานามัยที่ดี
ขั้นสรุป
     4. ครูและเด็กร่วมกันทบทวนความรู้เรื่องการปฏิบัติตนให้มีพลานามัยที่ดี
ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  • ขาดจังหวะของการสอน ควรอาศัยภาพใหญ่ให้เด็กสังเกตเป็นตัวนำในการสอน
  • วิธีการบันทึก สามารถทำได้โดยการนำภาพไปติดในกรอบ และยังสามารภนำภาพไปติดบนผังMind mapping ได้อีก
กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หน่วย อาหารดีมีคุณค่า
วันพฤหัสบดี (ประโยชน์ของอาหาร)
วัตถุประสงค์
     1. เด็กบอกวัตถุดิบในการทำหมูสร่งได้
     2. เด็กบอกขั้นตอนการทำหมูสร่งได้
     3. เด็กบอกรสชาติของหมูสร่งได้   
สาระที่ควรเรียนรู้
     วัตถุดิบ ขั้นตอนในการทำและรสชาติหมูสร่ง
ประสบการณ์สำคัญ
ด้านร่างกาย
     - การปฏิบัติตนตามสุขอนามัย
ด้านอารมณ์และจิตใจ
     - การร้องเพลง
ด้านสังคม
     - การเล่นและการทำงานร่วมกับผู้อื่น
ด้านสติปัญญา
     - การรู้จักสิ่งต่างๆด้วยการมอง ฟัง สัมผัส ชิมรสและดมกลิ่น        
กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
     - ครูและเด็ก ๆ ร่วมกันทำกิจกรรมเปิดภาพปริศนา
ขั้นสอน
     - ครูและเด็ก ๆ สนทนาเกี่ยวกับหมูสร่ง เช่น
        “เด็กๆรู้จักหมูสร่งไหมคะ
        “เด็กๆเคยรับประทานหมูสร่งไหมคะเป็นต้น
     - ครูและเด็กๆร่วมกันอ่านวัตถุดิบ อุปกรณ์และวิธีการทำหมูสร่ง
     - ครูสาธิตวิธีการทำหมูสร่ง
     - ครูให้เด็กแบ่งกลุ่ม4กลุ่ม  ครูขอตัวแทนออกมารับวัตถุดิบ อุปกรณ์
     - สมาชิกในกลุ่มร่วมมือกันทำหมูสร่ง
     - ครูขอตัวแทนของแต่ละกลุ่ม 1 คนออกมานำเสนอหมูสร่ง
ขั้นสรุป
     - ครูตั้งคำถามว่า
       “วัตถุดิบในการทำหมูสร่งมีอะไรบ้าง?” 
       “หมูสร่งมีขั้นตอนในการทำอย่างไร?”
       “รสชาติเป็นอย่างไร?”   
สื่อ / แหล่งการเรียนรู้
     - แผ่นชาร์ทวัตถุดิบและวัตถุดิบจริงในการทำหมูสร่ง
     - แผ่นชาร์ทอุปกรณ์และอุปกรณ์จริงในการทำหมูสร่ง
     - แผ่นชาร์ทขั้นตอนการทำหมูสร่ง  
การประเมิน
สังเกตจากการทำกิจกรรมของเด็ก
     1. เด็กสามารถบอกวัตถุดิบในการทำหมูโสร่งได้
     2. เด็กสามารถบอกขั้นตอนการทำหมูโสร่งได้
     3. เด็กบอกรสชาติของหมูโสร่งได้
ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
  • วิธีการจัดกลุ่ม มี 2 วิธี ได้แก่
    - วิธีที่ 1 ครูเตรียมอุปกรณ์วางไว้ครบแล้วทั้ง 3 ฐาน
    - วิธีที่ 2 ครูจัดเป็นฐานกิจกรรม ฐาน1 วาดาพขั้นตอน ฐาน2 ปั้นหมู ฐาน3 พันเส้นหมี่ ฐาน4 ทอด
  • ครูควรเขียนอัตราส่วนของวัตถุดิบให้เห็นด้วย
  • ขั้นตอนการทอด มีการตั้งประเด็นปัญหา ตั้งสมติฐาน ทำการทดลอง
    "ทำยังไงจึงจะกินหมูได้"
    "ถ้าทอดแล้ว เด็กๆคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
    "เด็กๆสังเกตดูซิว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง"
  • ให้เด้กได้จัดจานด้วยตนเอง
  • ครูอาจจัดให้เด็กปั้นหมุหลายๆรูปทรงได้


ทักษะ (Skills)
- ทักษะการฟัง
- ทักษะการคิดเชื่อมโยง
- ทักษะการทำงานกลุ่ม
- ทักษะการต่อยอด
- ทักษะการร้องเพลง

เทคนิคการสอน (Technique teaching)
- สาธิต
- ให้คำแนะนำ
- ให้นักศึกษาฝึกปฏิบัติ

การนำไปประยุกต์ใช้ (Adoption)
- สามารถเขียนแผนประสบการณ์กิจกรรมเสริมประสบการณ์ รวมถึงได้มองเห็นถึงข้อดีและข้อบกพร่องจากการทดลองการสอนของเพื่อน และนำเสนอแนะของอาจารย์นำไปปรับใช้ให้เข้ากับตนเองเพื่อการปฏิบัติการสอนในอนาคต

ประเมินผล (Assessment)
ประเมินตนเอง - เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจฟังอาจารย์ ให้ความร่วมมือกับเพื่อนขณะปฏิบัติการทดลองสอน
ประเมินเพื่อน -  เพื่อนเข้าเรียนตรงเวลา  ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม
ประเมินอาจารย์ - อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย คอยให้คำแนะนำที่เหมาะสมในการทำกิจกรรม เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของนักศึกษา

วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2561

Record 12
Monday 2 April 2018
เนื้อหาการเรียนการสอน (Knowledge)
          การบูรณาการ เป็นการสอนโดยนำเอาสาระหลายๆสาระมาเชื่อมโยงเข้าด้วยกันผ่านทุ่นลอย คือหน่วยการเรียนรู้ ซึ่งการสอนแบบบูรณาการสอดคล้องกับการทำงานของสมองของเด็ก เพราะการบูรณาการมีลักษณะสัมพันธ์กันแบบเป็นองค์รวม
รูปแบบการเรียนรู้
1. BBL
        แนวทางการจัดการเรียนรู้ตามหลัก Brain-Based Learning วางอยู่บนฐานคิดที่เข้าใจการทำงานของสมอง
        BBL หรือ Brain Based Learning คือ การใช้ความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับสมองให้ เป็นเครื่องมือในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้และกระบวนการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างศักยภาพสูงสุดในการเรียนรู้ของมนุษย์ โดยเชื่อว่าโอกาสทองของการเรียนรู้อยู่ระหว่างแรกเกิด ถึง 10 ปี
        การจัดการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาสมอง หรือ BBL (Brain-Based Learning) เป็นการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับพัฒนาการด้านโครงสร้างและการทำงานของสมอง เหมาะสมกับทุกช่วงวัย ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาถึงวัยชรา หลักการสำคัญในการเรียนรู้ของสมองเด็กปฐมวัยและประถมศึกษา คือ “เล่นคือเรียน เรียนคือเล่น” ต้องเรียนด้วยความเข้าใจมากกว่าความจำ เรียนรู้จากการสัมผัสจับต้องของจริงไปสู่สัญลักษณ์ ด้วยอารมณ์ที่เปิดรับการเรียนรู้ และต้องเรียนรู้ด้วยการลงมือทำ (active learning) แทนการนั่งฟังบรรยายเพียงอย่างเดียว (passive learning)

2. EF Executive Functions
        คือ กระบวนการทางความคิดในส่วน "สมองส่วนหน้า" ที่เกี่ยวข้องกับความคิด ความรู้สึก การกระทำ เป็นความสามารถของสมองที่ใช้บริหารจัดการชีวิตในเรื่องต่างๆ
สำหรับกลุ่มทักษะ EF ที่สำคัญมีทั้งหมด 9 ด้าน
1.ทักษะความจำที่นำมาใช้งาน (Working Memory) คือทักษะจำหรือเก็บข้อมูลจากประสบการณ์ที่ผ่านมา และดึงมาใช้ประโยชน์ตามสถานการณ์ที่พบเจอ เด็กที่มีเวิร์กกิ้ง เมมโมรีดี ไอคิวก็จะดีด้วย
2.ทักษะการยับยั้งชั่งใจ-คิดไตร่ตรอง (Inhibitory Control) คือความสามารถในการควบคุมความต้องการของตนเองให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เด็กที่ขาดความยับยั้งชั่งใจจะเหมือน "รถที่ขาดเบรก" อาจทำสิ่งใดโดยไม่คิด มีปฏิกิริยาในทางที่ก่อให้เกิดปัญหาได้
3.ทักษะการยืดหยุ่นความคิด (Shift Cognitive Flexibility) คือความสามารถในการยืดหยุ่นหรือปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ไม่ยึดตายตัว
4.ทักษะการใส่ใจจดจ่อ (Focus) คือความสามารถในการใส่ใจจดจ่อ มุ่งความสนใจอยู่กับสิ่งที่ทำอย่าง ต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่ง
5.การควบคุมอารมณ์ (Emotion Control) คือ ความสามารถในการควบคุมแสดงออกทางอารมณ์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เด็กที่ควบคุมอารมณ์ตัวเอง ไม่ได้ มักเป็นคนโกรธเกรี้ยว ฉุนเฉียว และอาจมีอาการซึมเศร้า
6.การประเมินตัวเอง (Self-Monitoring) คือการสะท้อนการกระทำของตนเอง รู้จักตนเอง รวมถึงการประเมินการงานเพื่อหาข้อบกพร่อง
7.การริเริ่มและลงมือทำ (Initiating) คือ ความสามารถในการริเริ่มและลงมือทำตามที่คิด ไม่กลัวความล้มเหลว ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
8.การวางแผนและการจัดระบบดำเนินการ (Planning and Organizing) คือทักษะการทำงาน ตั้งแต่การตั้งเป้าหมาย การวางแผน การมองเห็นภาพรวม ซึ่งเด็กที่ขาดทักษะนี้จะวางแผนไม่เป็น ทำให้งานมีปัญหา
9.การมุ่งเป้าหมาย (Goal-Directed Persistence) คือ ความพากเพียรมุ่งสู่เป้าหมาย เมื่อตั้งใจและลงมือทำสิ่งใดแล้ว ก็มีความมุ่งมั่นอดทน ไม่ว่าจะมีอุปสรรคใดๆ ก็พร้อมฝ่าฟันให้สำเร็จ
ซึ่งนำไปสู่การออกแบบกิจกรรมที่มีพื้นฐานของการใช้เครื่องมือ
สอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ วันพุธ
กลุ่มที่ 1 หน่วยอาหารดีมีคุณค่า
วันพุธ 
กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
1. ครูเล่านิทานเรื่องอาหารดีประโยชน์ แล้วสนทนาเนื้อหาในนิทาน
2. ครูใช้คำถาม อาหารที่เด็กทานมามีอะไรบ้าง
ขั้นสอน
3. ครูนำภาพอาหารมาให้เด็กดู ถามว่าอาหารที่นำมาอยู่ในกลุ่มอะไร
4. ครูถาม ถ้าเด็กๆอยากแข็งแรง เด็กๆต้องเลือกทานอาหารอะไร (สัมพันธ์นิทาน)
ข้อเสนอแนะของอาจารย์
  • การเล่านิทาน ต้องมีฉากมีตัวละครมีองค์ประกอบมากกว่านี้ เพื่อให้เด็กได้เห็นภาพ
  • เขียนแผนให้คนอื่นเข้าใจได้
  • ไม่ควรเปิดรูปภาพให้เด็กเห็น
กลุ่มที่ 2 หน่วยผีเสื้อ
วันพุธ (ปัจจัยการดำรงชีวิต)
กิจกรรมการเรียนรู้
สงบเด็ก : ตบมือข้างซ้าย ตบมือข้างขวา เรามาเรียนกันมา ตบมือข้างซ้าย ตบมือข้างขวา อึบ
ขั้นนำ
1. ครูและเด็กร้องเพลง Butterfly ร่วมกัน
  Fly fly fly the butterfly
in the meadow is flying high
in the garden is flying low
fly fly fly the butterfly
ขั้นสอน
2. ครูสอนวงจรชีวิตของผีเสื้อ
ข้อเสนอแนะของอาจารย์
  • เพลงภาษาอังกฤษควรออกเสียงให้ถูกต้อง
  • สนทนาเนื้อหาจากเพลง "ผีเสื้ออยู่ที่ไหน ทำไมบินต่ำ กินอะไร"
  • มีภาพวงจรชีวิตผีเสื้อแยกออกมา เพื่อให้เด็กเห็นและนำไปติดในกราฟฟิค
  • ครูใช้คำถาม "เด็กๆทราบไหมผีเสื้อมีการเจริญเติบโตอย่างไร" เพื่อให้มีข้อความรู้เรื่องปัจจัยการดำรงชีวิต
  • มีข้อมูลระยะเวลาในการเจริญเติบโตของผีเสื้อมาเขียน
กลุ่มที่ 3 หน่วยประสาทสัมผัสทั้ง 5
วันพุธ (หน้าที่ของอวัยวะ)
กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
1. ครูใช้ปริศนาคำทาย อะไรเอ่ย? ตัวฉันเป็นใคร อยู่ในปากคน แลบเลียสับสน รส หวาน เปรี้ยว เค็ม
ขั้นสอน
2. ครูอธิบายลิ้นมีหน้าที่รับรส
3. ครูมีภาชนะ 2 รสมาให้เด็กชิม ได้แก่ รสเค็ม รสหวาน ให้เด็กๆออกมาชิม
4. ครูอธิบายว่า ถ้าเรามองด้วยตาเปล่าเราจะรู้ไหมว่ารสชาติเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นเราต้อง__
ข้อเสนอแนะของอาจารย์
  • มีตารางสำหรับนำมาเสนอข้อมูล
  • ใช้แค่ 2 รสชาติสำหรับให้เด็กชิม
  • ใช้เลขกำกับแก้วเบอร์ 1 แก้วเบอร์ 2
  • สีของสิ่งที่นำมาให้เด็กชิม ต้องเป็นสีที่ใกล้เคียงกัน (เพราะสอนเรื่องลิ้น ทำให้มองแล้วรู้ไม่ได้)
  • ครูให้เด็กชิมฐานที่เป็นน้ำตาลและเกลือก่อน แล้วมีอย่างอื่นที่แปรรูปเข้ามา เช่น น้ำหวาน น้ำปลา
  • เพิ่มข้อควรระวังในการชิม เพื่อให้เด็กรู้วิธีการดูแลลิ้นด้วย
กลุ่มที่ 4 หน่วยบ้านแสนสุข
วันพุธ (สมาชิกในบ้าน)
กิจกรรมการเรียนรู้
สงบเด็ก : จิบจิบจิ้บ จิบจิบจิบจิบจิ้บ กระพือปีกซ้าย กระพือปีกขวา กระพือปีกไปมา จิบกลับเข้ารัง
ขั้นนำ
1. ครูและเด็กร้องเพลงพี่น้องกัน
ขั้นสอน
2. ครูสอนความสัมพันธ์ของสมาชิกในบ้าน
3. ครูให้เด็กนำภาพสมาชิกมาติดในกราฟฟิค
ขั้นสรุป
4. ที่บ้านเรามีใครกันบ้าง แล้วเราดูแลกันยังไง
ข้อเสนอแนะของอาจารย์
  • สนทนาเนื้อในเพลง "บ้านของเรามีใครกันบ้าง"
  • ควรให้เด็กๆมาช่วยครูติดความสัมพันธ์ของคนในบ้าน
  • ครูควรลากเส้นย้ำให้เห็นความสัมพันธ์
  • พูดทวนซ้ำอธิบายไปด้วย "น้องของแม่เรียกว่าน้า ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงผู้ชายก็เรียกน้า
  • วาดแผนผังให้ตรง
กลุ่มที่ 5 หน่วยใต้ร่มเงาไม้
วันพุธ (ปัจจัยการดำรงชีวิต)
แผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาลปีที่ 3  กิจกรรมเสริมประสบการณ์
จุดประสงค์
1. เด็กปฏิบัติตามคำสั่งของครูได้
2. เด็กบอกขั้นตอนการปลูกต้นถั่วเขียวและวิธีการดูแลรักษาได้
3. เด็กบอกการเปลี่ยนแปลงของต้นถั่วเขียวได้
สาระที่ควรรู้
ขั้นตอนการปลูกต้นถั่วเขียว
1. วางกระดาษทิชชู่ไว้ในแก้ว แล้วพรมน้ำให้เปียก
2. ใช้ช้อนตักเมล็ดถั่วเขียว 4-5 ช้อน แล้วโรยลงในแก้ว
3. นำกระดาษทิชชู่มาวางทับเมล็ดถั่วเขียวที่ แล้วพรมน้ำให้เปียก
วิธีการดูแลต้นถั่วเขียว 
     รดน้ำทุกวันวันละ 3-4 เวลา หรือนำไปไว้ในที่ที่มีแสงแดดเพื่อให้ต้นถั่วเขียวเจริญเติบโต
ประสบการณ์สำคัญ
ด้านร่างกาย 
    - การประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา 
    - การปฏิบัติตนตามสุขอนามัย
ด้านอารมณ์ จิตใจ 
    - การแสดงออกอย่างสนุกสนานในการกิจกรรม
ด้านสังคม 
    - การเล่นและการทำงานร่วมกับผู้อื่น
ด้านสติปัญญา 
    - การแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด
    - การอธิบายเกี่ยวกับสิ่งของ เหตุการณ์ และความสัมพันธ์ ของสิ่งต่างๆ
    - การทดลองสิ่งต่างๆ
กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
1. ครูและเด็กร้องเพลง ดูแลรักษาต้นไม้
ต้นไม้จะใหญ่งอกงาม
เราพยายามบำรุงรักษา
รดน้ำ พรวนดิน ถอนหญ้า
ใส่ปุ๋ย และฆ่าแมลง ด้วยเอย
2. ครูถามเด็กว่าในเพลงนี้มีวิธีการดูแลต้นไม้อย่างไรบ้าง แล้วนอกเหนือจากในเพลงนี้มีวิธีการดูแลรักษาต้นไม้อย่างไรอีกบ้าง แล้วบันทึกลงแบบบันทึกการดูแลต้นไม้
ขั้นสอน
3. ครูแนะนำอุปกรณ์และสนทนาถามว่า เด็กๆรู้จักอุปกรณ์อะไรบ้าง แล้วเด็กๆ คิดว่าจะเอามาทำอะไร
4. ครูสาธิตขั้นตอนในการปลูกต้นถั่วเขียว และมีตัวอย่างให้ดู โดย ครูจะปลูกต้นถั่วเขียวไว้ 2 กระถาง  
- กระถางที่ 1 ครูเอากระป๋องครอบไว้  
- กระถางที่ 2 ครูจะไม่รดน้ำ แต่ได้รับแสงแดด
5. ครูแบ่งกลุ่มให้เด็ก กลุ่มละเท่าๆกัน แล้วให้เด็กลงมือปฏิบัติการปลูกต้นถั่วเขียว
6. ให้เด็กสังเกตการเปลี่ยนแปลงของต้นถั่วงอก และบันทึกการเปลี่ยนแปลง
ขั้นสรุป
7. ครูและเด็กร่วมกันสรุปกิจกรรม ขั้นตอนการปลูกต้นถั่วเขียวและวิธีการดูแลรักษา
สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
- แผ่นชาร์ทเพลง ดูแลรักษาต้นไม้
- แผ่นชาร์ทอุปกรณ์ในการปลูกต้นถั่วเขียว และขั้นตอนการปลูกต้นถั่วเขียว
- แผ่นชาร์ทแบบบันทึกการเปลี่ยนแปลงของต้นถั่วเขียว
- แผ่นชาร์ทบันทึกการดูแลต้นไม้
- เมล็ดถั่วเขียว
- ช้อนพลาสติกเล็ก
- แก้วพลาสติก
- กระดาษทิชชู่
- น้ำ
การประเมิน
สังเกตจาก
1. การลงมือปฏิบัติตามคำสั่งของครู
2. การตอบคำถาม และการแสดงความคิดเห็น
การบูรณาการ
- วิทยาศาสตร์
- คณิตศาสตร์
- ภาษา
กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
1. ครูและเด็กร้องเพลง ดูแลรักษาต้นไม้
ต้นไม้จะใหญ่งอกงาม
เราพยายามบำรุงรักษา
รดน้ำ พรวนดิน ถอนหญ้า
ใส่ปุ๋ยนานา กำจัดแมลงเอย
2. ครูสนทนาเนื้อหาในเพลง มีวิธีการดูแลรักษาต้นไม้อย่างไรบ้าง แล้วนอกจากเพลงมีวิธีใดบ้าง ครูบันทึกลงใน Mind mapping
ขั้นสอน
3. ครูให้เด็กปลูกถั่วเขียว ครูแนะนำอุปกรณ์ สาธิตวิธีการปลูกถั่วเขียว
ข้อเสนอแนะของอาจารย์
  • เพลงที่นำมาใช้ ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับเนื้อหา
  • ความคิดเห็นที่เด็กเสนอเพิ่มเติม ควรใช้สีอื่นเขียน
  • ขั้นตอนการปลุกถั่วเขียว มีกล่องข้อความและมีลูกศรชี้ (กราฟฟิค)
  • ครูปลูกถั่วเขียว มี 3 กระถาง คือ กระถางที่ 1 รดน้ำ ให้อากาศ ให้แสงแดด กระถางที่ 2 ไม่รดน้ำ ให้อากาศ ให้แสงแดด กระถางที่ 3 ไม่รดน้ำ ไม่ให้อากาศ ไม่ให้แสงแดด เพื่อให้เด็กได้สังเกตว่าจะเกิดอะไรขึ้นภายใน 5 วัน (เรียนรู้ปัจจัยในการเจริญเติบโต)
  • เสริมเรื่องการขยายพันธุ์ต้นไม้ มีหลายวิธี คือ ใช้เมล็ด การต่อกิ่ง ติดตา ปักชำ ครูอาจจะนำภาพเป็นชิ้นส่วนจิ๊กซอว์มาให้ติด
  • ขั้นสรุป ครูอธิบายต้นไม้ต้องได้รับอากาศ แสงแดด น้ำ ในการเจริญเติบโต มีวิธีการดูแลคือการพรวนดิน ถอนหญ้า ใส่ปุ๋ย 
ทักษะ (Skills)
- ทักษะการฟัง
- ทักษะการต่อยอดความรู้
- ทักษะการร้องเพลง
- ทักษะการวางแผน

เทคนิคการสอน (Technique teaching)
- ให้คำแนะนำ
- การตั้งคำถาม
- ให้นักศึกษาฝึกปฏิบัติ

การนำไปประยุกต์ใช้ (Adoption)
- สามารถจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ที่หลากหลายได้ ต่อยอดความรู้จากการสังเกตข้อดีและข้อบกพร่องจากที่เพื่อนออกมานำเสนอและนำข้อเสนอแนะของอาจารย์ไปต่อยอดปรับเป็นเทคนิคการสอนของตนเองให้ดีขึ้น 

ประเมินผล (Assessment)
ประเมินตนเอง - แต่งกายเรียบร้อย  ตั้งใจฟังอาจารย์ ให้ความร่วมมือกับเพื่อนขณะปฏิบัติการทดลองสอน
ประเมินเพื่อน -  เพื่อนเข้าเรียนตรงเวลา  ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม สอนได้ดีมีเทคนิคที่แตกต่างกัน
ประเมินอาจารย์ - อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย คอยให้คำแนะนำที่เหมาะสมในการทำกิจกรรม